เวน่อม มหาศึกอสูรอหังการ เป็นภาพยนตร์ที่พร้อมทั้งแอ็กชัน สยองขวัญ รวมทั้งดราม่า กับการต่อสู้สุดมันระหว่างซูเปอร์วีรบุรุษและซูเปอร์ฆาตกรที่ไม่เหมือนใคร เรื่องราวของเวน่อมยังคงเดินหน้าต่อไป และจะยังคงเป็นที่น่าติดตามในอนาคตของจักรวาลซูเปอร์วีรบุรุษ หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ เวน่อม เด่นเป็นความไม่ตรงกันภายในของทั้งยังเวน่อมและเอ็ดดี้ ในภาคนี้ เราจะเห็นทั้งสองต้องเล่าเรียนที่จะ เห็นด้วยและอยู่ร่วมกันอย่างแท้จริง ในตอนที่เวน่อมอยากได้อิสระสำหรับในการแสดงพลังอันดุร้ายของเขา เอ็ดดี้ ในฐานะมนุษย์ กลับอุตสาหะจะกักคุมเองและจากนั้นก็ทำสิ่งที่ถูก การเติบโตของดาราทั้งสองในภาคนี้ สะท้อนถึงการพัฒนาของตัวละครแบบคู่ขนาน ไม่ว่าจะเป็นการพบเจอกับปัญหาที่มาจากภายนอก (เช่น คาร์เนจ) หรือความท้าทายที่เกิดขึ้นจากภายใน (การต่อสู้กับความต้องการของตน)
เวน่อมเองก็ปรับแต่งความเป็นมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ เรียนรู้ที่จะช่วยเหลือเอ็ดดี้ ในแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน และการสนทนาระหว่างพวกเขาก็สะท้อนถึงมิตรภาพที่เติบโตอย่างซับซ้อนขึ้น ทั้งสองเริ่มสร้างความรู้ความเข้าใจแล้วก็พยายามหาทางอยู่ร่วมกัน แม้ว่าจะมีการทะเลาะวิวาทแม้กระนั้นท้ายที่สุดทั้งคู่ก็เริ่มเข้าใจซึ่งกันและกันเยอะขึ้นเรื่อยๆ ความเชื่อมโยงที่ซับซ้อนของคลีตัสรวมทั้งคาร์เนจ คลีตัส แคซาดี้
แล้วหลังจากนั้นก็ คาร์เนจ เวน่อม มหาศึกอสูรอหังการ
ก็มีความเชื่อมโยงที่น่าสนใจ
แล้วหลังจากนั้นก็ไม่เหมือนกับคู่ของเวน่อมกับเอ็ดดี้ คลีตัส แคซาดี้เป็นบุคคลที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งรวมทั้งความโมโหในสังคมตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เมื่อเขาได้รับซิมบิโอตคาร์เนจ พลังเผาผลาญที่เขาได้รับไม่ได้ทำให้เขาควบคุมตัวเองเยอะขึ้นเรื่อยๆกลับทำให้เขากลายเป็นศัตรูที่อำมหิตมากยิ่งกว่าเดิม ความไม่เหมือนระหว่างเวน่อมกับคาร์เนจนั้นแจ่มแจ้งเยอะแยะ ทั้งในด้านพลังแล้วก็วิธีการใช้งาน เวน่อมยังคงมีความรู้และมีความเข้าใจสำหรับการควบคุมแล้วก็ทำความเข้าใจความเป็นมนุษย์ของเอ็ดดี้
แม้กระนั้นคาร์เนจเป็นพลังที่ไม่มีขอบเขตและก็ควบคุมไม่ได้ เขาเป็นซิมบิโอตที่ไร้มนุษยธรรมที่สุด และจากนั้นก็เมื่อรวมกับคลีตัสแล้ว พวกเขากลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่สุดที่โลกเคยพบเห็น การเปิดประตูสู่จักรวาลใหม่ สิ่งหนึ่ง ที่ทำให้ผู้ชมตื่นเต้นเป็นการที่ จักรวาลของเวน่อม อาจขยายตัวไปสู่โลกของ Spider-Man ซึ่งมีการบอกใบ้ถึงการเชื่อมต่อระหว่างนักแสดงของทั้งสองโลก การเปิดประตูนี้ทำให้เกิดการคาดหมายถึงการพบกันระหว่าง เวน่อม แล้วก็ Spider-Man ในอนาคต ซึ่งจะเป็นการสร้างโครงเรื่องที่ใหญ่ขึ้นแล้วก็ซับซ้อนเยอะขึ้น
การเชื่อมต่อนี้ไม่เฉพาะแต่ทำให้เรื่องราวของเวน่อมน่าติดตามมากเพิ่มขึ้น แม้กระนั้นยังเปิดโอกาสให้มีการร่วมมือหรือการต่อสู้ระหว่างซูเปอร์วีรบุรุษรวมทั้งแอนตี้วีรบุรุษที่แฟนๆรอ ความเป็นไปได้ในการสร้างจักรวาล Marvel ที่มีทั้งตัวละครจากโลกของ Venom รวมถึง เวน่อม มหาศึกอสูรอหังการ ทำให้อนาคตของแฟรนไชส์นี้น่าสนใจมากขึ้น อนาคตของเวน่อมในจักรวาล Marvel หลังจากจบภาคนี้ มีปัญหามากมายเกี่ยวกับวิถีทางต่อไปของศิลปิน เวน่อม แล้วก็ เอ็ดดี้ บร็อก การที่พวกเขาผ่านการต่อสู้กับคาร์เนจรวมทั้งสามารถเอาชนะได้ แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเติบโตทั้งในทางของความรู้ความเข้าใจรวมถึงความเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ดี การต่อสู้คราวต่อมาอาจยิ่งใหญ่รวมทั้งท้าทายมากขึ้นไปอีก
มีการเดาว่าอนาคตของเวน่อม อาจนำมาซึ่งการก่อให้เกิดการพบกับศัตรูใหม่ๆจากจักรวาล Marvel อื่นๆหรือการเปิดเผยรายละเอียดอื่นๆเกี่ยวกับซิมบิโอตจากอวกาศ ซึ่งจะมีผลให้เวน่อมรวมทั้งเอ็ดดี้ต้องพบเห็นกับความท้าทายที่ไม่เคยมีมาก่อน นอกนั้นยังมีความเป็นไปได้ที่ดาราอื่นๆจะเข้ามามีบทบาทในจักรวาลของเวน่อม ทำให้เรื่องราวยิ่งซับซ้อนและจากนั้นก็น่าติดตามมากขึ้น “เวน่อม” ไม่เพียงแค่เป็นการนำเสนอ
ฉากแอ็กชันแล้วก็ความระทึกใจที่ดุเดือด แต่ยังเป็นการวิเคราะห์จิตใจ
ของดาราหนังและความเกี่ยวข้องที่ซับซ้อนระหว่างมนุษย์รวมถึงซิมบิโอต แล้วก็การขยายจักรวาลให้กว้างมากขึ้นในโลกของซูเปอร์วีรบุรุษ เป็นประจำจากเนื้อหาของ “เวน่อม: มหาศึกยักษ์โอหัง” มีหลักสำคัญที่น่าสนใจอีกหลายด้านที่สามารถเอามาขยายเพื่อเข้าใจลึกซึ้งมากขึ้นเกี่ยวกับตัวเรื่องแล้วหลังจากนั้นก็วิถีทางของจักรวาลนี้ ความหมายของการเป็นแอนตี้ วีรบุรุษ เวลาที่ เวน่อม ไม่ใช่ซูเปอร์วีรบุรุษในแบบเริ่มต้น ถึงแม้เขาเป็นสิ่งที่เรียกว่า แอนตี้วีรบุรุษ ซึ่งเป็นตัวละครที่ไม่ได้ทำสิ่งที่ถูกด้วยวิธีการที่สะอาดบริสุทธิ์
กลับใช้พลังและวิธีการที่ทารุณไร้มนุษยธรรมแต่จำเป็นต้อง เวน่อมสะท้อน ถึงความไม่ลงรอยกันระหว่าง คุณงามความดีและความชั่ว ที่อยู่ในทุกตัวตนของมนุษย์ เวน่อมเลือกที่จะต่อสู้กับศัตรูที่ร้ายกาจกว่าเพื่อคุ้มครองปกป้องรักษาสิ่งจำเป็น แม้ว่าจะใช้แนวทางการที่รุนแรงและโหดร้ายทารุณก็ตาม ใน “เวน่อม” ผู้ชมจะได้ลงความคิดเห็นว่าเวน่อมเริ่มปรับพฤติกรรมและเข้าใจวิธีการใช้พลังของตนเองเพื่อเป้าหมายที่ดีขึ้น เวน่อม มหาศึกอสูรอหังการ การพัฒนานี้บอกถึงถึงความเจริญรุ่งเรืองของดารา ซึ่งเบาๆแปลงจากความเหี้ยมโหดแล้วก็ไม่มีการควบคุมในตอนแรก ไปสู่การเป็นผู้คุ้มครองรักษาที่มีวิธีการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ถึงจะยังมีวิธีการที่แตกต่างจากวีรบุรุษปกติ
การเชื่อมต่อไปยังซิมบิโอตตัวอื่น ในจักรวาลของซิมบิโอตนั้น ไม่ได้มีแค่เพียงเวน่อมรวมทั้งคาร์เนจเท่านั้นเอง ยังมี ซิมบิโอตอื่นๆอีกเยอะมากที่มีคุณสมบัติแล้วก็พลังส่วนตัว บางตัวเป็นศัตรู บางตัวอาจเป็นผู้ช่วยเหลือ หรือบางตัวอาจสร้างความระส่ำระสายมากยิ่งกว่า คาร์เนจ เสียอีก การขยายจักรวาลซิมบิโอตในอนาคตสามารถเป็นเหตุให้เกิดการแนะนำดาราหนังใหม่ๆที่จะสร้างความระทึกใจให้กับแฟนๆไม่ว่าจะเป็น Toxin ซึ่งเป็นซิมบิโอตรุ่นต่อจากคาร์เนจที่มีพลังรุนแรงมากยิ่งกว่า หรือ Scream ซิมบิโอตเพศหญิงที่มีบทบาทสำคัญในโลกของเวน่อม ทุกซิมบิโอตมีคุณสมบัติเฉพาะแล้วหลังจากนั้นก็พลังพิเศษที่ทำให้เรื่องราวมีความมากมายหลากหลายรวมถึงน่าติดตามมากขึ้น
ศีลธรรมรวมทั้งเส้นแบ่งระหว่างคุณความดี และก็ความชั่ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้เวน่อมน่าสนใจเป็นการเสนอ เส้นแบ่งที่ไม่แน่ชัด ระหว่างคุณงามความดีแล้วก็ความชั่ว ภาพยนตร์ไม่ได้พรีเซนเทชั่นว่าความรุนแรงและก็การทำลายเป็นสิ่งที่ดี แม้กระนั้นบอกให้เห็นถึงความต้องการในบางเหตุที่วีรบุรุษต้องก้าวผ่านข้อจำกัดทางศีลธรรมเพื่อทำสิ่งที่ถูก คาร์เนจสะท้อนถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อไม่มีขอบเขตของศีลธรรม พฤติกรรมของเขาเต็มไปด้วยความโหดร้ายทารุณโดยไม่สนใจผลพวงใดๆในขณะที่เวน่อมยังคงต่อสู้เพื่อควบคุมสัญชาตญาณของเขารวมทั้งหาวิธีที่จะใช้พลังในทางที่ถูก
การสร้างเงื่อนปัญหาสำหรับภาคต่อ ส่วนท้ายของ “เวน่อม” ทิ้งปัญหาหลายจำพวกไว้ให้ผู้ชมถามแล้วหลังจากนั้นก็ติดตามในภาคต่อ อนาคตของเวน่อม ภายหลังที่เขาเอาชนะคาร์เนจได้ จะเป็นยังไง? เวน่อมแล้วก็เอ็ดดี้จำเป็นจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูใหม่ๆจากจักรวาลซิมบิโอต หรืออาจมีการเชื่อมต่อกับดาราในโลกของ Spider-Man ที่จะทำให้เรื่องราวยิ่งใหญ่แล้วก็ซับซ้อนขึ้นไปอีก ภาพยนตร์ทิ้งเบาะแสถึงการรวมจักรวาลของเวน่อมรวมทั้ง MCU (Marvel Cinematic Universe) เวน่อม มหาศึกอสูรอหังการ ซึ่งการมาของเวน่อมในโลกของ Spider-Man สามารถก่อเกิดสถานะการณ์สำคัญที่ทำให้แฟนๆตื่นเต้นได้อย่างแน่นอน
การทำงานของ CGI และก็การออกแบบผู้แสดง หนึ่งในจุดเด่น
ของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็น การใช้เทคนิคพิเศษ (CGI) ในการสร้างเนื้อสร้างตัวละครซิมบิโอตให้ออกมาเหมือนจริงรวมทั้งน่าทึ่ง การออกแบบดาราอย่างเวน่อมรวมทั้งคาร์เนจที่มีความสะดุดตาในด้านของรูปลักษณ์ รวมถึงการเคลื่อนไหว ทำให้ภาพยนตร์เต็มไปด้วยความระทึกใจและล่อใจผู้ชมได้ตลอดเวลา ฉากต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความรุนแรงแล้วก็ความสมจริงสมจังจาก CGI นับเหมาะสมที่สุดในไฮไลท์สำคัญของภาพยนตร์ “เวน่อม” ไม่เพียงแค่สร้างความบันเทิงผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือดแล้วก็เรื่องราวที่เข้มข้นเท่านั้น แม้กระนั้นยังเปิดประตูสู่โลกของซิมบิโอตที่มีความซับซ้อน รวมทั้งทิ้งเงื่อนอุปสรรคต่อการปรับแต่งต่อไปในจักรวาล gustacosmexicangrill ที่จะทำให้แฟนๆคอยติดตามอย่างใจจดใจจ่อ
อิทธิพลของซิมบิโอตต่อโลกมนุษย์ สิ่งที่ยังคงคือปัญหาเป็นแถวทางที่ ซิมบิโอต ส่งผลต่อโลกรวมถึงมนุษย์โดยรวม โดยในภาพยนตร์ เรามีความเห็นว่าเมื่อซิมบิโอตเข้าควบคุมร่างมนุษย์ มันสามารถเพิ่มความรู้ความเข้าใจและจากนั้นก็ทำให้มนุษย์มีพลังที่ยิ่งใหญ่กว่าปกติ หากแม้ก็อาจส่งผลให้เกิดความบ้าคลั่งและจากนั้นก็ทำลายได้ ถึงแม้ไม่สามารถที่จะสามารถควบคุมได้ อนาคตของจักรวาลซิมบิโอตอาจวิเคราะห์ถึงผลพวงของการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์แล้วหลังจากนั้นก็ซิมบิโอตในระดับที่ลึกซึ้งขึ้น ดังเช่นว่า การขยายผล ไปยังคนธรรมดาที่อาจถูกซิมบิโอตเข้าครอบครอง
รวมทั้งผลที่ตามมาของการใช้พลังนั้นในสังคม ภาพยนตร์สามารถเสนอหัวข้อที่เกี่ยวโยงกับจรรยาบรรณ การควบคุมตนเอง และผลที่ได้จากการไม่สามารถที่จะสามารถควบคุมพลังของซิมบิโอตได้ เวน่อม มหาศึกอสูรอหังการ แนวคิดของซิมบิโอตที่ซับซ้อนขึ้น เวน่อม ไม่ใช่แค่สิ่งมีชีวิตจากอวกาศที่เข้าครอบครองมนุษย์ แต่ว่ายังมีความซับซ้อนทางด้านอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด รวมถึงการตัดสินใจ ใน ภาคต่อไป อาจมีการขยายเรื่องราวเกี่ยวกับบ่อเกิดของซิมบิโอต
แล้วก็โลกของพวกมันและความเกี่ยวพันระหว่างซิมบิโอตต่างๆ
ซึ่งจะทำให้เรามองเห็นมิติใหม่ๆของผู้แสดงเหล่านี้ นอกนั้นยังมีการคาดการณ์ว่าอาจจะมีการเปิดเผยเกี่ยวกับ ราชาซิมบิโอต (Knull) ซึ่งเป็นผู้สร้างซิมบิโอตทั้งหมดในจักรวาล Marvel การมาของ Knull อาจนำพาความสับสนระดับจักรวาลมาสู่โลกของเวน่อมรวมทั้งซูเปอร์วีรบุรุษตัวอื่นๆการต่อสู้ระหว่างราชาซิมบิโอตกับวีรบุรุษในจักรวาล Marvel จะเป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถสร้างความระทึกใจให้กับแฟนๆได้อย่างแน่นอน สรุปแล้ว เวน่อม เป็นการต่อยอดการประสบผลสำเร็จ
จากภาคแรกและก็สร้างฐาน ให้กับการพัฒนาต่อไปของจักรวาลซิมบิโอตที่น่าติดตาม ทั้งเรื่องของความเกี่ยวข้องระหว่างตัวละคร การขยายโลกของซิมบิโอต และการเชื่อมต่อกับจักรวาลอื่นๆใน Marvel เรื่องราวของเวน่อมยังคงเดินทางไปข้างหน้า และคาดว่าจะมีการเปิดเผยเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ และจากนั้นก็ซับซ้อนมากขึ้นในอนาคต Venom: The Last Dance เป็นการกลับมาเป็นอย่างมากใหญ่ของ เอ็ดดี้ บร็อก รวมทั้ง เวน่อม ที่ชนะใจแฟนๆมาอย่างเป็นเวลายาวนาน ในเรื่องราวภาคใหม่นี้ เวน่อม มหาศึกอสูรอหังการ พวกเขาจำเป็นต้องเจอหน้ากับการต่อสู้หนสุดท้ายที่ท้าทายและเสี่ยงตายมากกว่าตอนไหนๆการเล่าเรื่องที่เข้มข้น
และการพัฒนาศิลปินที่ลึกซึ้ง ทำให้ภาคนี้ได้ผลสรุปที่น่าจำและสะเทือนอารมณ์
การขัดกันด้านในตัวเอ็ดดี้แล้วก็เวน่อม ใน “Venom: The Last Dance” เอ็ดดี้แล้วก็เวน่อมต้องเผชิญกับการขัดกันด้านในที่ยากจะหาคำตอบ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาที่เคยเป็นทั้งมิตรภาพและศัตรูกลับเริ่มย่ำแย่ แรงกดดันจากการใช้ชีวิตร่วมกัน แล้วก็การตัดสินใจ ที่จะจำต้องพบเห็นในแต่ละสถานะการณ์ ทำให้ความเกี่ยวข้องของพวกเขาแปรไป จากเดิมอย่างสิ้นเชิง ทั้งสองจำเป็นต้องต่อสู้กับความรู้สึก “ถูกขับไล่ไสส่ง” อีกทั้งจากสังคมและจากด้านในจิตใจ
ของตัวเอง เอ็ดดี้ จึงควรเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบากว่าเขาควรจะปล่อยให้เวน่อมอยู่ต่อไปหรือไม่ เวลาที่เวน่อมเองก็จำเป็นที่จะต้องต่อสู้กับความรู้สึกที่ว่าเขาถูกไม่รับและไม่มีที่ยืนในโลกของมนุษย์ ความเจ็บปวดนี้ทำให้ทั้งสองเริ่มเสนอคำถามถึงความหมายของการอยู่ร่วมกัน ศัตรูใหม่: ศึกหนสุดท้าย Venom: The Last Dance เสนอศัตรูใหม่ที่มีอำนาจและก็น่าขนลุกที่สุด เท่าที่เอ็ดดี้แล้วก็เวน่อมเคยพบเห็น ซึ่งในภาคนี้ Knull ราชาที่ซิมบิโอตที่ถูกขังมาทันเวลาหลายพันปี
ได้ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง Knull เป็นตัวละครที่มีพลังเหนือธรรมชาติ รวมถึงการควบคุมซิมบิโอตทุกตัวในจักรวาล ทำให้การต่อสู้กับเขาเป็นความท้าทาย ที่ไม่อาจเลี่ยงได้ การมาของ Knull ทำให้เวน่อมและซิมบิโอตอื่นๆจำเป็นที่จะต้องเลือกข้าง ระหว่างการยอมแพ้และก็ถูกถือครอง หรือการต่อสู้เพื่ออิสระ ของพวกเขาเอง เอ็ดดี้แล้วหลังจากนั้นก็เวน่อมควรต้องเผชิญกับควา
